ห้องเรียนเสมือนจริง(Virtual
Classroom)
“การเรียนการสอนที่จำลองแบบเสมือนจริงเป็นเป็นนวัตกรรมทางการศึกษา”
การจัดการห้องเรียนเสมือนจริง
การเรียนการสอนที่จำลองแบบเสมือนจริงเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่สถาบันการศึกษาต่างๆ
ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและจะขยายตัวมากขึ้นในศตวรรษที่
21
การเรียนการสอนในระบบนี้อาศัยสื่ออิเล็กทรอนิกส์โทรคมนาคม
และเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นหลัก
ที่เรียกว่า Virtual
Classroom หรือ Virtual Campus บ้าง
นับว่าเป็นการพัฒนาการบริการทางการศึกษาทางไกล ชนิดที่เรียกว่าเคาะประตูบ้านกันจริงๆ
เป็นรูปแบบใหม่ของสถาบันการศึกษาในโลกยุคไร้พรมแดน
ความหมายของห้องเรียนเสมือน
(Virtual
Classroom)
ได้มีผู้ให้ความหมายของห้องเรียนเสมือนจริงไว้หลายท่าน
ดังนี้
ศ.
ดร.
ครรชิต
มาลัยวงศ์
ได้กล่าวถึงความหมายของห้องเรียนเสมือน(Virtual
Classroom) ว่าหมายถึง การเรียนการสอนที่ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้าไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย
(File
Server) และคอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเว็บ (Web
Server) อาจเป็นการเชื่อมโยงระยะใกล้หรือระยะไกลผ่านทางระบบการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตด้วย
กระบวนการสอนผู้สอนจะออกแบบระบบการเรียนการสอนไว้โดยกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน
สื่อต่างๆ
นำเสนอผ่านเว็บไซต์ประจำวิชา
จัดสร้างเว็บเพจในแต่ละส่วนให้สมบูรณ์
ผู้เรียนจะเข้าสู่เว็บไซต์ประจำวิชาและดำเนินการเรียนไปตามระบบการเรียน
ที่ผู้สอนออกแบบไว้ในระบบเครือข่ายมีการจำลองสภาพแวดล้อมต่างๆ
ในลักษณะเป็นห้องเรียนเสมือน
(ครรชิต มาลัยวงศ์, 2540)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กล่าวว่าห้องเรียนเสมือน
(Virtual
Classroom) เป็นการเรียนการสอนที่จะต้องมีการนัดเวลา
นัดสถานที่
นัดผู้เรียนและผู้สอน
เพื่อให้เกิดการเรียนการสอนมีการกำหนดตารางเวลาหรือตารางสอนผู้เรียนไม่ต้องเดินทางแต่เรียกผ่านเครือข่ายตามกำหนดเวลาเพื่อเข้าห้องเรียนและเรียน
ได้แม้จะอยู่ที่ใดในโลก(มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,2543)
รุจโรจน์
แก้วอุไร
กล่าวไว้ว่าห้องเรียนเสมือน
(Virtual
Classroom) เป็นการจัดการเรียนการสอนทางไกลเต็มรูปแบบ
โดยมีองค์ประกอบครบ
ได้แก่
ตัวผู้เรียน
ผู้สอน
และเพื่อนร่วมชั้น
เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนพร้อมๆ
กัน
มีสื่อการสอนทั้งภาพและเสียง
ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือตอบโต้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนหรือกับเพื่อนร่วมชั้นได้เต็มที่
(คล้ายกับ chat room) ส่วนผู้สอนสามารถตั้งโปรแกรมติดตามพัฒนาการ
ประเมินผลการเรียนรวมทั้งประสิทธิภาพของหลักสูตรได้
ทั้งนี้ไม่จำกัดเรื่องสถานที่
แต่ผู้เรียนในชั้นและผู้สอนจะต้องนัดเวลาเรียนอย่างพร้อมเพรียง
(รุจโรจน์ แก้วอุไร,2543
: 22)
บุญเกื้อ
ควรหาเวช
ได้กล่าวถึงห้องเรียนเสมือนว่า
(Virtual
Classroom) หมายถึง การจัดการเรียนการสอนที่
ผู้เรียนจะเรียนที่ไหนก็ได้
เช่น
ที่บ้าน
ที่ทำงาน
โดยไม่ต้องไปนั่งเรียนในห้องเรียนจริงๆ
ทำให้ประหยัดเวลา
ค่าเดินทาง
และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
อีกมากมาย
(บุญเกื้อ ควรหาเวช.
2543:
195)
โดยสรุป
กล่าวได้ว่าได้ว่า
ห้องเรียนเสมือน
(Virtual
Classroom) หมายถึง การเรียนการสอนที่กระทำผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้าไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย
(File
Server) และคอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเว็บ
(Web
sever) เป็นการเรียนการสอนที่จะมีการนัดเวลาหรือไม่นัดเวลาก็ได้
และนัดสถานที่
นัดตัวบุคคล
เพื่อให้เกิดการเรียนการสอน
มีการกำหนดตารางเวลาหรือตารางสอน
เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนพร้อมๆ
กันหรือไม่พร้อมกัน
มีการใช้สื่อการสอนทั้งภาพและเสียง
ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือตอบโต้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนหรือกับเพื่อนร่วมชั้นได้เต็มที่
(คล้าย chat room) ส่วนผู้สอนสามารถตั้งโปรแกรมติดตามพัฒนาการประเมินผลการเรียนรวมทั้งประสิทธิภาพของหลักสูตรได้
ทั้งนี้
ไม่จำกัดเรื่องสถานที่
เวลา
(Any
Where & Any Time) ของผู้เรียนในชั้นและผู้สอน
ประเภทของห้องเรียนเสมือน
รศ.ดร.อุทัย
ภิรมย์รื่น
(อุทัย ภิรมย์รื่น, 2540)
ได้จำแนกประเภทการเรียนในห้องเรียนแบบเสมือนจริงได้
2
ลักษณะ
คือ
1. จัดการเรียนการสอนในห้องเรียนธรรมดา
แต่มีการถ่ายทอดสดภาพและเสียงเกี่ยวกับบทเรียน
โดยอาศัยระบบโทรคมนาคมและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไปยังผู้เรียนที่อยู่นอกห้องเรียนนักศึกษาก็สามารถรับฟังและติดตามการสอนของผู้สอนได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองอีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกับอาจารย์ผู้สอน
หรือเพื่อนักศึกษาในชั้นเรียนได้
ห้องเรียนแบบนี้ยังอาศัยสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่เป็นจริง
ซึ่งเรียกว่า Physical
Education Environment
2. การจัดห้องเรียนจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์สร้างภาพเสมือนจริง
เรียกว่า Virtual
Reality โดยใช้สื่อที่เป็นตังหนังสือ
(Text-Based) หรือภาพกราฟิก
(Graphical-Based) ส่งบทเรียนไปยังผู้เรียนโดยผ่านระบบโทรคมนาคมและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ห้องเรียนลักษณะนี้เรียกว่า Virtual
Education Environment ซึ่งเป็น Virtual
Classroom ที่แท้จริง การจัดการเรียนการสอนทางไกลทั้งสองลักษณะนี้
ในบางมหาวิทยาลัยก็ใช้ร่วมกัน
คือมีทั้งแบบที่เป็นห้องเรียนจริง
และห้องเรียนเสมือนจริง
การเรียนการสอนก็ผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันอยู่ทั่วโลก
เช่น Internet,
WWW. ขณะนี้ได้มีผู้พยายามจัดตั้งมหาวิทยาลัยเสมือนจริงขึ้นแล้ว
โดยเชื่อมโยง Site ต่างๆ
ที่ให้บริการด้านการเรียนการสอนทางไกล
แบบ Virtual Classroom ต่างๆ เข้าด้วยกัน
และจัดบริเวณอาคารสถานที่
ห้องเรียน
ห้องสมุด
ภาควิชาต่างๆ
ศูนย์บริการต่างๆ
ตลอดจนคณาจารย์
นักศึกษา
กิจกรรมทุกอย่างเสมือนเป็นชุมชนวิชาการจริงๆ
แต่ข้อมูลเหล่านี้จะอยู่ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ของแต่ละแห่ง
ผู้ประสงค์จะเข้าร่วมในการเปิดบริการก็จะต้องจองเนื้อที่และเขียนโปรแกรมใส่ข้อมูลเข้าไว้
เมื่อนักศึกษาติดต่อเข้ามา
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็จะแสดงภาพ
เสียง
ภาพเคลื่อนไหว
และสามารถโต้ตอบได้เสมือนหนึ่งเป็นมหาวิทยาลัยจริง
ๆ
การติดต่อกับมหาวิทยาลัยเสมือนจริงทำได้ดังนี้
1. บทเรียนและแบบฝึกหัดต่าง
ๆ
อาจจะส่งให้ผู้เรียนในรูปวีดีทัศน์
หรือวีดิทัศน์ผสมกับ Virtual
Classroom หรือCD-ROM ที่มีสื่อประสมทั้งภาพ
เสียง
การเคลื่อนไหว
โดยผ่านระบบสัญญาณเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ดาวเทียม
โทรทัศน์
โทรสาร
หรือทางเมล์
ตามความต้องการของผู้เรียน
2. ผู้เรียนจะติดต่อสื่อสารกับอาจารย์ผู้สอนได้โดยตรง
ในขณะสอนก็ได้หากเป็นการเรียนที่ Online ซึ่งจะเป็นแบบของการสื่อสารสองทาง
(Two-way
Communication) ที่โต้ตอบโดยทันทีทันใดระหว่างผู้เรียนและผู้สอนหรือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน
(Synchronous
Interaction) เช่น การ Chat หรืออาจใช้การโต้ตอบแบบไม่ทันทีทันใด
(Asynchoronous
Interaction)เช่น การใช้
E-mail, การใช้ Web-
board เป็นต้น
3. การทดสอบ
ทำได้หลายวิธี
เช่น
ทดสอบแบบ Online หรือทดสอบโดย
ผ่านทางโทรสาร ทาง E-mail และทางไปรษณีย์ธรรมดา
บางแห่งจะมีผู้จัดสอบโดยผ่านตัวแทนของมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นที่นักศึกษาอาศัยอยู่
การเรียนทางไกลโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกเรียนวิชาที่ตนสนใจได้ตลอดเวลา
ในทุกแห่งที่มีการเปิดสอน
ไม่ต้องเข้าชั้นเรียนก็ได้
ในการศึกษาหาความรู้
จึงมีความยืดหยุ่นด้านเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปมาก
นอกจากนี้ผู้เรียน
ยังสามารถติดต่อกับอาจารย์ผู้สอนได้โดยตรง
สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เรียนคนอื่นซึ่งอยู่ห่างไกลกันได้
เป็นการเรียนแบบช่วยเหลือซึ่งกัน
และกันทำงานร่วมกัน
(Collaborative
Learning) อย่างไรก็ตามการเรียน
ทางไกลลักษณะนี้อาจจะขาดความสัมพันธ์แบบ face-to-face คือ
การเห็นหน้าเห็นตัวกันได้แต่ปัจจุบันนี้ก็มีกล้องวีดิทัศน์
ที่เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย
ก็สามารถทำให้เห็นหน้ากันได้
ดังนั้นปัญหาเรื่อง face-to-face ก็หมดไป
ความสำเร็จและคุณภาพของการเรียนในระบบนี้ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนค่อนข้างมาก
เพราะจะต้องมีความรับผิดชอบ
ต้องบริหาร
เวลาเพื่อติดตามบทเรียน
การทำกิจกรรมและการทดสอบต่างๆให้ทันตามกำหนดเวลา
จึงจะทำให้การเรียนประสบผล
สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
น่าใช้มากค่ะ
ตอบลบน่าสนใจมากคับ
ตอบลบมีสาระครับ
ตอบลบน่าสนใจมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ตอบลบ